วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เกอิชา ตอนที่ 1

เปิดตัว..... ตัวเอกของเรื่อง!!







.....ฉันไม่ได้เกิดและเติบโตในเมืองเกียวโต หากแต่เป็นลูกสาวชาวประมงที่หมู่บ้านเล็กๆ ชายฝั่งทะเล ชื่อหมู่บ้านโยโรอิโดะ
คนส่วนมากคิดเอาเองว่าเราคงเป็นเกอิชาสืบทอดกันลงมาตั้งแต่ยาย จนถึงแม่ แล้วก็ถึงฉัน แล้วก็ฉันคงถูกหัดให้ดำเนินชีวิตแบบเกอิชามาตั้งแต่หย่านมแม่ อะไรทำนองนั้น
.....วันหนึ่งขณะที่ฉันรินเหล้าสาเกให้ชายคนหนึ่ง เขาก็เล่าขึ้นมาว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนเขาได้ไปที่หมู่บ้านเล็กๆ ชื่อโยโรอิโดะ ฉันรู้สึกตัวคล้ายกับตัวเองเป็นนกซึ่งโบยบินข้ามทะเลไปไกลแสนไกล แล้วจู่ๆ ก็เจอคนเขาบอกว่าเจอรังเก่าของตัว ฉันตะลึงพรึงเพริดเสียจนหลุดปากออกไปอย่างไม่รู้ตัวว่า
“โยโรอิโดะ ตายแล้ว..ฉันเกิดและเติบโตที่นั่นนะคะ”
ชายที่น่าสงสารคนนั้นหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาพยายามจะยิ้ม แต่ก็ดูเหยเกเต็มที เพราะยังไม่หายจากอาการตกใจ
.....ฉันเกิดและเติบโตในหมู่บ้านเล็กซึ่งเสื่อมโทรมนั้นจริงๆ และไม่เคยมีใครพูดเลยว่าโยโรอิโดะเป็นที่ที่น่าอยู่ มันเป็นสถานที่ซึ่งน้อยคนนักจะเหยียบย่างไปถึง ส่วนคนที่อยู่ที่นั่นก็แทบจะไม่มีสติปัญญาจะดิ้นรนย้ายถิ่นไปอยู่ที่อื่น
คุณคงอยากจะรู้ล่ะซิว่าฉันจากที่นั่นมาได้อย่างไร เอาเถอะ..ฉันจะเล่าให้ฟัง
โยโรอิโดะ ความจริงไม่ควรเรียกว่าเมืองเพราะเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ เท่านั้น
บ้านที่ฉันเกิดและเติบโตเป็นกระท่อมโย้เย้บนเขาตรงหน้าผาซึ่งหันออกทะเล จากตรงนั้นเราจะมองเห็นทะเลตลอดเวลา แล้วก็หนาวมาก ทะเลส่งเสียงครืนครั่นและคลื่นเมื่อถาโถมเข้ากระทบหินผาก็ทำให้เกิดละอองน้ำปลิวฟุ้ง
กระท่อมของเราโย้เย้เสียจนพ่อต้องไปหาเสาไม้จากเรือแตกที่ลอยมาติดหาดเอามาค้ำชายคาเอาไว้ บ้านของเราเลยยิ่งดูตลกเหมือนตาแก่ถือไม้เท้า
เมื่อเด็กๆ นั้น ฉันหน้าตาเหมือนแม่มาก แทบจะไม่มีส่วนคล้ายคลึงพ่อหรือพี่สาวเอาเสียเลย แม่บอกว่าที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะแม่กับฉันเป็นคนธาตุน้ำเหมือนกัน
นัยน์ตาของแม่กับนัยน์ตาของฉันไม่ได้เป็นสีน้ำตาลแก่เหมือนคนญี่ปุ่นอื่น ๆ แต่กับเป็นสีเทาอ่อนดูใสเหมือนลูกแก้ว
เมื่อเด็กๆ ฉันเคยบอกแม่ว่า คงจะมีใครเอาไม้ทิ่มตาฉัน หมึกในตาดำของฉันเลยรั่วออกมาหมด ทำให้มีสีตาไม่เหมือนใครอย่างนี้ แม่ขันคำพูดของฉันมาก
ส่วนหมอดูนั้นเคยบอกว่า การที่เราทั้งสองคนมีตาสีประหลาด ก็เพราะเป็นคนมีธาตุน้ำอยู่ในตัวมากจนเกือบจะไม่มีธาตุอื่นเอาเสียเลย และด้วยเหตุนี้แหละ แม่ของฉันจึงหน้าตาแปลกไม่เหมือนใคร คนในหมู่บ้านพูดบ่อยๆ ว่าแม่ของฉันควรจะสวยเพราะตากับยายหน้าตาดีมากทั้งคู่
แต่ก็นั่นแหละนะ ลูกพีชก็อร่อยแบบพีช เห็ดก็อร่อยแบบเห็ด จะให้เหมือนกันได้ยังไง
ตาสีเทาของแม่มีขนตาหนาและยาว เป็นเครื่องประกอบแบบเดียวกับตา แต่ไม่ยักทำให้ดูดี กลับทำให้คนที่มองเห็นถึงกับสะดุ้งไปทีเดียว
แต่พอฉันอายุได้ 9 ขวบ แม่ก็กลับผอมเสียจนกระดูกแก้มโปน ฉันไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นเพราะน้ำระเหยออกไปจากตัวหมด แม่จึงเป็นเช่นนั้น เหมือนสาหร่ายซึ่งปรกติเคยเปียกชุ่ม แต่พอน้ำระเหยไปหมดก็จะกรอบแห้งผาก
พอมาถึงช่วงนี้ แม่ก็ดูจะทอดอาลัยต่อชีวิตเสียแล้ว.....













......ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับฮัตสุโมโมะ เราทุกคนในโอกิยะก็เทิดทูนหล่อนราวกับนางพญา
ด้วยว่าหล่อนเป็นผู้หารายได้เข้าโอกิยะเพื่อเลี้ยงดูพวกเราเพียงลำพัง
ในเมื่อเป็นนางพญา ฮัตสุโมโมะก็ย่อมจะหงุดหงิดเป็นธรรมดา หากว่ากลับมาถึงในตอนดึกแล้วพบว่าสำนักปิดไฟเงียบ และทุกคนนอนหลับกันหมด
ดังนั้นในทางปฏิบัติ คืนใดที่ฮัตสุโมโมะกลับมาถึงและเมาจนถอดถุงเท้าเองไม่ได้ เราคนใดคนหนึ่งก็จะต้องถอดให้หล่อน
ถ้าหากว่าหล่อนหิว หล่อนก็ไม่ต้องไปเข้าครัวหาอะไรกินเอง ด้วยว่าจะมีคนไปจัดแจงให้เสร็จสรรพ
หน้าที่คอยรอรับเกอิชาซึ่งกลับมาถึงสำนักในตอนดึกนั้น ตกเป็นของเกอิชาฝึกหัดซึ่งอายุน้อยที่สุดในสำนักเกอิชาแห่งนั้น ในระยะนั้นก็ได้แก่ฉันนั่นเอง
ดังนั้นดึกดื่นหลังเที่ยงคืนไปแล้วนานเนิ่น ขณะที่ฟักทองและสาวใช้สูงอายุ 2 คน หลับสบายไปเรียบร้อยแล้ว บนฟูกห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ฉันก็ยังต้องคุกเข่าคอยรอรับฮัตสุโมโมะอยู่อย่างอดทน ทั้งๆ ที่อาจจะเป็นเวลากว่าตี 2 เข้าไปแล้ว และฉันง่วงแสนง่วงเพียงไรก็ตามที......






บทความจาก เกอิชา >>> วิหยาสะกำ <<<

....ในการเขียนภาพประกอบหนังสือ >> ควรจับใจความสำคัญของบทนั้นๆ ว่าพูดถึงเรื่องอะไร เด่นในเรื่องใด ตรงจุดไหนคือจุด
เด่นของเรื่อง แล้วจับประเด็นสำคัญมาเป็นภาพประกอบจ้า.....