วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กำเนิด"เพาะช่าง"

สวัสดีค่ะ......คนรักศิลปทั้งหลายยย!!

หลังจากสะสมประสบการณ์จากการวาดภาพมาเป็นเวลานาน.... เป็นคนชอบวาดภาพตั้งแต่เด็กๆ มีประกวดที่ไหน ต้องไปล่ารางวัลมันเกือบทุกที่ อิอิ ชอบและรักเป็นชีวิตจิตใจ


จนมีโอกาสได้มาเรียนอย่างจริงจัง ที่โรงเรียน "เพาะช่าง" เด็กศิลทั้งหลายคงรู้จักกันดี.....(เป็นโรงเรียนสอนศิลปะแห่งแรกที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยเชียวนะ......)


"ถิ่นเรานี้ สวยงาม สมนาม เพาะช่าง" อะนะ ...ก่อนจะพูดถึงเรื่องงานศิลๆๆ ขอกล่าวถึงมหาลัยอันเป็นที่รักยิ่งก่อนละกัน ที่นี่เราไม่ชอบพูดว่าเป็นมหาลัยเหมือนกับที่อื่นหรอก ติดปากกันมาว่าเป็น "โรงเรียน" มากกว่า เพราะดูขลังดี


แต่เดิมเพาะช่างได้รับพระราชทานนามจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ว่า " โรงเรียนเพาะช่าง"(นี่เป็นเหตุที่ชาวเพาะช่างหวงแหนชื่อนี้เหลือเกิน) ในวาระที่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2456(ซึ่งกลายมาเป็นวันเกิดโรงเรียนเพาะช่าง เป็นเหมือนวันที่ลูกศิษย์ทั้งรุ่นเก่า....รุ่นใหม่....รุ่นพี่...รุ่นน้องต่างมารวมตัวกัน พบปะพูดคุยกัน ทุกปีเลยค่ะ เป็นประเพณีไปแล้ว)


ในการที่ “ โรงเรียนเพาะช่าง " ได้รับพระราชทานกำเนิดจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 นั้นก็เพราะพระราชดำริใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงห่วง ใยในศิลปะการช่างของไทยจะถูกอิทธิพลของศิลปวัฒนธรรมต่างชาติ โดยเฉพาะศิลปวัฒนธรรมตะวันตกพวกฝรั่งที่ขณะนั้นเริ่มแพร่หลายเข้าครอบงำอาจถึงคราวเสื่อมสูญได้ จึงมีพระราชประสงค์จะทำนุบำรุงศิลปะ การช่างของไทยให้พัฒนาถาวรสืบไป...... นี่เป็นเพียงที่มานะค่ะ ความจริงมีเรื่องราวประวัติความเป็นมายาวเยียดค่ะ สาธยายไม่หมด...


ปัจจุบันโรงเรียนเพาะช่าง ตั้งอยู่ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรภาพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีสี แดง-ดำ เป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน >>ซึ่งหมายถึงเลือดของศิลปินนั่นเอง





ระเบียบ หน้าที่ ประเพณี สามัคคี อวุโส จิตใจ เสา 6 ต้น สัญญาลักษณ์ ของ รร.เพาะช่าง




ว้าว!!มารู้จักรุ่นพี่รั่ว แดงดำกันซักหน่อย>>มีใครบ้างเอ่ยย!!




คนแรกเลย อ.เฉลิมชัย โฆษิพิพัฒน์
ท่านนี้คงไม่ต้องบอกอะไรมาก ทุกๆคนคงรู้จักท่านดีใน ฐานะศิลปินผู้มีชื่อเสียง และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าถามถึงศิลปินที่ทุกคนรู้จัก ต้องมีคำว่า เฉลิมชัย อยู่อันดับต้นๆแน่นอนค่ะ คนนี้เจอตัวเป็นๆมีแล้ว>>ขอบอกเค้ามีพลังจริงๆค่ะ วิจารณ์งานเราไม่เหลือชิ้นดีเลย เฮอะๆตอนนั้นแบบว่ายังไม่เก่ง555 ถ้าอยากเจอต้อง มาเที่ยววัดร่องขุ่นค่ะ เจอตัวเป็นๆแน่นอน







2.อ.ถวัลย์ ดัชนี
ท่านนี้ก็เป็นอีกท่านที่ผลงานโด่งดังไปถึงต่างประเทศ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของอ.เฉลิมชัย ก็เป็นอีกท่านนึงที่จัดได้ว่าเป็นศิลปิน ผู้เสพศิลปะอันดับต้นๆของประเทศ>>ท่านนี้ก็คนเชียงรายค่ะ ชอบสีดำเป็นชีวิตจิตใจ ขนาดบ้านยังเป็นสีดำเลย แต่สวยนะ ไม่เหมือนใครดี.>>>อยู่แถวๆอำเภอนางแลค่ะ ชาวเจียงฮายฮู้ดีจ้าววววว






3.ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา
หรือที่คนในวงการรถยนต์ยกย่องให้เค้าเป็น "เจ้าพ่อมอเตอร์โชว์" ซึ่งท่านนี้ได้เป็นคนจัดงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งทุกท่านผู้คงรู้กันดีอยู่แล้ว ว่างานมอเตอร์โชว์ยิ่งใหญ่ขนาดไหน


4.ชาย เมืองสิงห์
ท่านนี้ก็จบจากเพาะช่างเช่นเดียวกันค่ะ เป็นคนที่มีลูกคอในการร้องเพลงไม่เหมือนใคร มีสไตน์การร้องอย่างเป็นเอกลักษณ์.>>เมียพี่มีชู้ๆๆๆๆๆๆ555




5.เปี๊ยก โปสเตอร์
ในยุคของหนังไทยสมัยก่อน โปสเตอร์หนังที่มีมิตร ชัยบัญชา และเพรชรา เชาวราช ล้วนแต่เป็นฝีมือของเปี๊ยกโปสเตอร์ทั้งสิ้น คนนี้คนในวงการบันเทิงหลายคนต้องรู้จักดี ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์มาแล้วต่อหลายเรื่อง>>>แต่นานมาแล้ว รุ่นเราๆคงหาดูได้ยาก

6.พิง ลำพระเพลิง
คนนี้ตอนนี้เป็นผู้กำกับหนังหลายต่อหลายเรื่อง ส่วนเรื่อง โคตรรักเอ็งเลย ได้ผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยได้รุ่นน้องจากรั้วดำแดง อย่าง โน๊ต อุดม แต้พานิช มารับบทพระเอก>>>เรื่องนี่สุดซึ้ง เด็กศิลป์ ก็อย่างนี้แหละแบบว่าอารมณ์อ่อนไหว อิอิ



7.โน๊ต อุดม แต้พานิช

คงไม่มีใครไม่รู้จักเค้าคนนี้ เมื่อก่อนพี่โน๊ตเรียน แผนกพาณิชย์ศิลป์ ซึ่งตอนนี้ไม่มีแล้วได้เปลี่ยนมาเป็น ออกแบบนิเทศ แทนค่ะ>>คณะเดียวกันจ้า รุ่นพี่ฉ้านนน! และเค้าก็เป็นฮีโร่ของใครหลายๆ คน..... ก็เก่งซะขนาดนั้น 55+รูปนี้หล่อเชียวนะพี่โน๊ต.......



พอแค่นี้ก่อนละกันความจริงยังมีคนดังๆอีกเยอะค่ะ ที่เข้าออกรั้วดำแดง แล้วแต่ละคนก็เป็นคนมีชื่อเสียงจากหลายๆวงการ ทั้งบันเทิง ศิลปิน ไหนจะมีศิลปินแห่งชาติอีก 20 กว่าท่าน เป็นสถาบันที่มีศิลปินมากที่สุดในประเทศไทยด้วยล่ะค่ะ>>>ภูมิใจๆๆ555

โอกาสหน้าจะเอาผลงานตัวเองมาอวดนะค่ะ รับรองไม่ให้เสียฟอร์มเด็กเพาะช่างแน่นอนค่ะ....เลือดแดง-ดำ ยังไม่เคยจางจ้า 555